ความต้องการเหล็กทั่วโลกในปี 2021 คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 4.5% ซึ่งต่ำกว่าที่เคยคาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้เนื่องจากการชะลอตัวทางเศรษฐกิจของประเทศจีน โดยสมาคมเหล็กโลก (World Steel Association) กล่าวเมื่อวันที่ 14 ต.ค. ถึงแนวโน้มระยะสั้นของปี 2021 และ 2022.
ประเทศจีนซึ่งผลิตเหล็กดิบมากกว่าครึ่งหนึ่งของโลก คาดว่าสิ้นปี 2021 จะมีความต้องการลดลง 1% เหลือที่ปริมาณ 985.1 ล้านตัน ซึ่งเทียบกับแนวโน้มก่อนหน้านี้ที่จะมีการเติบโต 3% ในปี 2022 คาดว่าความต้องการเหล็กในประเทศจีนไม่ขยายตัว โดยภาคอสังหาริมทรัพย์ยังคงซบเซาตามนโยบายของรัฐบาลเกี่ยวกับการปรับสมดุลและรักษาสิ่งแวดล้อม
ในขณะเดียวกัน ความต้องการเหล็กนอกประเทศจีนคาดว่าจะกลับสู่ระดับก่อนเกิดโรคระบาดในปี 2021โดยเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ เนื่องจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งขึ้น โดย worldsteel ได้ทบทวนการคาดการณ์แล้ว
โดยความต้องการของโลกที่ไม่รวมประเทศจีน คาดว่าจะเติบโต 11.5% ในปี 2021 อยู่ที่ 870.3 ล้านตัน และเพิ่มขึ้น 4.7% ในปี 2565 อยู่ที่ 911.3 ล้านตัน แทนที่จะเพิ่มขึ้น 9.3% ในปี 2021 เป็น 849.1 ล้านตัน และเพิ่มขึ้น 4.7% ในปี 2022 เป็น 889.5 ล้านตัน
Al Remeithi ประธานคณะกรรมการเศรษฐกิจ worldsteel กล่าวว่า “ปี 2021 ได้เห็นการฟื้นตัวของอุปสงค์เหล็กที่แข็งแกร่งกว่าที่คาดการณ์ไว้ ส่งผลให้มีการปรับขึ้นในการคาดการณ์ของเราทั้งหมด ยกเว้นในประเทศจีน” “กิจกรรมการผลิตที่แข็งแกร่งซึ่งได้รับแรงหนุนจากความต้องการที่ถูกกักไว้เป็นปัจจัยหลัก